อุซามะฮ์ บิน โมฮัมเหม็ด บิน อวัด บิน ลาดิน หรือ อุซามะฮ์ บิน ลาดิน (อังกฤษ: Osama bin Mohammed bin Awad bin Laden; Osama bin Laden) (10 มีนาคม พ.ศ. 2500 - 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 (700154000000000000054 ปี 700153000000000000053 วัน)) เป็นนักต่อสู้ของพวกวะฮาบีย์[ต้องการอ้างอิง] เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งและหัวหน้าอัลกออิดะฮ์ ซึ่งรับผิดชอบเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ต่อสหรัฐอเมริกา และเหตุวินาศกรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากอีกหลายครั้ง เกิดในตระกูลบิน ลาดินสัญชาติซาอุดิอาระเบีย อันมั่งคั่ง
บิน ลาดินอยู่ในรายชื่อหนึ่งในสิบบุคคลที่สำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) ต้องการตัวมากที่สุดและผู้ก่อการร้ายที่ต้องการตัวมากที่สุดจากการมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุวางระเบิดสถานทูตสหรัฐในปี พ.ศ. 2541 ระหว่าง พ.ศ. 2544 ถึง 2554 บิน ลาดินเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตในอิรัก อัฟกานิสถานและโซมาเลียระหว่าง 80,000 ถึง 1.2 ล้านคนระหว่างปี พ.ศ. 2544 ถึง 2550 เขาเสียชีวิตในบริเวณบ้านในแอบบอตทาบัต โดยปฏิบัติการบุกจู่โจมของหน่วยซีลสหรัฐอเมริกา
จากปี พ.ศ. 2544 จนถึง 2554 บิน ลาดินเป็นเป้าหมายหลักของสงครามต่อต้านการก่อการร้าย โดย FBI ได้ให้ค่าหัวถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อตามหาเขา ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 บิน ลาดิน ได้ถูกยิงเสียชีวิต ในที่พัก ณ แอบบอตทาบัด ซึ่งเขาได้พักอยู่กับครอบครัวพื้นเมืองจากวาซิริสถาน โดยคำสั่งจาก บารัก โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
อุซามะฮ์ บิน ลา ดิน เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2500 ที่ซาอุดีอาระเบีย เป็นบุตรชายของเศรษฐี โมฮัมเหม็ด บิน อวัด บิน ลาดิน ซึ่งสนิทกับครอบครัวราชวงศ์ของซีเรีย ครอบครัวของบิน ลาดินมีรายได้ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในธุรกิจก่อสร้าง ต่อมาอุซามะฮ์ได้รับมรดกกว่า 25-30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วงสงครามเย็น เขาเป็นผู้ต่อต้านสหภาพโซเวียตในอัฟกานิสถาน และต่อมาเมื่อเกิดสงครามอ่าว เขาก็ได้แสดงท่าทีต่อต้านสหรัฐอเมริกา จนนำมาสู่การถอนสัญชาติ และทำให้บิน ลาดินต้องอพยพไปอยู่ที่ซูดาน และอัฟกานิสถาน ตามลำดับ
บิน ลาดินถูกเลี้ยงมาให้ศรัทธาในนิกายซุนนีศาสนาอิสลามด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ถึง 2519 เขาได้ไปโรงเรียน Al-Thager Model School จากนั้นเค้าได้เรียนสาขาเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ ณ มหาวิทยาลัยคิงอับดัลอะซิซ บางรายงานเสนอว่าเค้ายังได้วุฒิในสาขาวิศวกรรมโยธาในปี พ.ศ. 2522 อีกด้วย หรือวุฒิในการบริหารรัฐกิจในปีพ.ศ. 2524 อีกแหล่งข่าวบอกว่าเขาได้ออกจากมหาลัยขณะศึกษาในปีที่ 3 และไม่ได้รับวัฒิระดับมหาลัย ขณะศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ความสนใจหลักของบิน ลาดินคือศาสนา
ในปี พ.ศ. 2517 เมื่ออายุได้ 17 ปี บิน ลาดินได้แต่งงานกับ นาจวา กาเน็ม ณ กรุงลาทาเกีย ประเทศซีเรีย จนแยกทางกันในปี พ.ศ. 2544 ภรรยาคนอื่นๆของบิน ลาเดน ที่มีข้อมูลได้แก่ ชาริฟ (แต่งงานเมื่อปี พ.ศ. 2526 และแยกทางเมือประมาณช่วงปี พ.ศ. 2533) ไคเรีย (แต่งงานเมื่อปี พ.ศ. 2528) ซิฮาม ซาบา (แต่งงานเมื่อปี พ.ศ. 2530) และ อามาล อัล ซาดา (แต่งงานเมื่อปี พ.ศ. 2543) บิน ลาดินเป็นพ่อของบุตรระหว่าง 20 ถึง 26 คนจากภรรยาของเขา โดยลูกของเขาหลายคนได้หนีไปที่ประเทศอิหร่านหลังการโจมตีในวันที่ 11 กันยายน และแม้ในปี พ.ศ. 2553 ผู้มีอำนาจในประเทศอิหร่านยังคงรายงานการเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้อยู่ตลอด
นาสเซอ อัล บาริ ซึ่งเป็นคนคุ้มกันประจำตัวของบิน ลาดินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ถึง ปี 2544 ได้กล่าวถึงบิน ลาดิน ในบันทึกว่า เขาเป็นคนประหยัด และเป็นพ่อที่เข้มงวด เขาชอบที่จะพาครอบครัวที่ใหญ่โตของเขาออกเดินทางไปยิงปืนและปิกนิกในทะเลทราย โมฮาเหม็ด พ่อของบิน ลาดิน เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2510 ในการตกของเครื่องบิที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมือคนขับเครื่องบินชาวอเมริกันของเขา จิม ฮารริงตัน ตัดสินใจผิดพลาดขณะลงจอด ซาเล็ม บิน ลาดิน ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของบิน ลาดิน ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวคนต่อมาได้เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2531 ใกล้เมืองซานอันโตนิโอ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ในอุบัติเหตุขณะขับเครื่องบินไปชนสายไฟ FBI ได้บรรยายลักษณะของบิน ลาดิน ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่สูงและผอม ความสูงอยู่ระหว่าง 1.93 เมตร และ 1.98 เมตร และหนักประมาณ 73 กิโลกรัม
2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 บารัก โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ออกมาแถลงยืนยันผ่านทางโทรทัศน์ว่า อุซามะฮ์ บิน ลา ดิน ได้เสียชีวิตลงแล้ว จากการปฏิบัติการพิเศษของหน่วยซีล (SEAL) อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของ อุซามะฮ์ บิน ลา ดิน ได้สร้างความสงสัยให้กับผู้คนจำนวนมากว่าเสียชีวิตจริงหรือไม่ เพราะทางการสหรัฐอเมริกายังไม่เปิดเผยภาพศพ เนื่องจากทางการสหรัฐฯ เกรงว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง